“การลงทุน vs การมีประกัน : ความหวือหวากับความมั่นคงที่ต่างกัน”

การลงทุน vs การมีประกัน : ความหวือหวากับความมั่นคงที่ต่างกัน”



ในยุคที่โลกการเงินหมุนเวียนอย่างรวดเร็ว หลายคนเลือกที่จะก้าวเข้าสู่การลงทุน ไม่ว่าจะเป็นหุ้น คริปโตเคอร์เรนซี หรือการเก็งกำไรในตลาดเงินต่างประเทศ เพราะเชื่อว่าการลงทุนเหล่านี้คือหนทางสู่ความมั่งคั่งและอิสรภาพทางการเงิน แน่นอนว่าการลงทุนมีโอกาสให้ผลตอบแทนสูง แต่ในขณะเดียวกัน ก็แฝงไปด้วยความเสี่ยงที่เราไม่สามารถควบคุมได้ บางครั้งกำไรที่เคยทำได้กลับหายไปเพียงชั่วข้ามคืน และอาจพลาดจนสูญเสียเงินเก็บที่สะสมมาหลายปีได้ง่าย ๆ

การลงทุนจึงเปรียบเสมือน “เรือที่ออกไปกลางทะเล” หากคลื่นลมสงบ เราอาจถึงฝั่งอย่างรวดเร็ว แต่หากเจอพายุโดยไม่ทันตั้งตัว เรืออาจอับปางและทำให้ทุกอย่างพังลงในพริบตา

ในทางตรงกันข้าม การมี “ประกัน” อาจไม่ได้หวือหวาเหมือนการลงทุน แต่กลับเปรียบเสมือน “สมอเรือ” ที่ช่วยยึดเหนี่ยวเรือเอาไว้ แม้เจอพายุแรง เรายังมีสิ่งที่คอยค้ำจุนไม่ให้ชีวิตล่มสลายไปพร้อม ๆ กัน ความมั่นคงจากการทำประกันไม่ได้สร้างผลตอบแทนมหาศาลในทันที แต่ให้คุณค่าในสิ่งที่สำคัญกว่านั้น นั่นคือ ความมั่นใจและความสบายใจในอนาคต

ประกัน: หลักประกันชีวิตที่ไม่ควรมองข้าม

1. ประกันชีวิต ช่วยสร้างความมั่นใจว่า หากวันหนึ่งเราจากไป ครอบครัวที่เรารักยังคงมีเงินทุนสำรอง ใช้ต่อยอดชีวิตได้ ไม่ต้องเผชิญปัญหาหนักเกินไป

2. ประกันสุขภาพ ช่วยแบ่งเบาภาระยามเจ็บป่วย ไม่ต้องกังวลว่าค่าใช้จ่ายในโรงพยาบาลจะกลืนกินเงินเก็บหรือบั่นทอนอนาคต

3. ประกันอุบัติเหตุและโรคร้ายแรง ช่วยปิดความเสี่ยงที่คาดไม่ถึง เพราะไม่มีใครรู้ได้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น

ในแง่ของการวางแผนทางการเงินที่รอบด้าน การลงทุนกับการทำประกันไม่ได้ขัดแย้งกัน หากแต่ควรเดินควบคู่กันไป การลงทุนคือการสร้างโอกาส แต่การทำประกันคือการสร้างความมั่นคง เมื่อทั้งสองสิ่งมารวมกัน จะกลายเป็นแผนการเงินที่สมบูรณ์แบบ

ความหวือหวา vs ความมั่นคง

ความหวือหวาของการลงทุนมักดึงดูดใจเราได้เสมอ แต่ความมั่นคงจากการทำประกันคือสิ่งที่เงียบและไม่โดดเด่น จนหลายคนมองข้ามไป จนกว่าจะถึงวันที่ต้องการจริง ๆ แล้วกลับพบว่ามันสำคัญมากกว่าสิ่งอื่นใด

การลงทุนเปรียบเหมือนการสร้างตึกสูงที่ทะเยอทะยาน แต่การทำประกันเปรียบเหมือนรากฐานที่มั่นคงของตึกนั้น ตึกจะสูงเพียงใดก็ได้ แต่ถ้าฐานรากไม่แข็งแรง สักวันหนึ่งก็อาจพังทลายลงมาได้

บทสรุป

เราไม่อาจหยุดโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนได้ แต่เราสามารถเลือกที่จะ “เตรียมพร้อม” ต่อสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ การลงทุนอาจทำให้ชีวิตเติบโต แต่การทำประกันทำให้ชีวิตมั่นคง ทั้งสองสิ่งจึงควรเดินไปด้วยกัน

เพราะสุดท้ายแล้ว การลงทุนสร้างผลกำไร แต่การทำประกันสร้างความสบายใจ
และเมื่อมีทั้งสองอย่างร่วมกัน ชีวิตของเราก็จะสมดุลและมั่นคงในทุก ๆ สถานการณ์

---

วันนี้คุณอาจลงทุนเพื่ออนาคต แต่คุณมีหลักประกันเพื่อครอบครัวแล้วหรือยัง?
อย่ารอให้พายุมาแล้วค่อยหาสมอเรือ มาวางแผนประกันไว้ตั้งแต่วันนี้ เพื่อความมั่นใจว่าทั้งคุณและครอบครัวจะยืนหยัดได้อย่างมั่นคง ไม่ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น

---

#ประกันกับต้อง #insurebytong

ความคิดเห็น

Related stories

อนาคตของโลกการเงิน

DSCR คืออะไร?

📍อายุ 30 ปี ทำประกันชีวิต แบบไหนดีครับ